Thursday, January 4, 2007

Seasons Change - My favorite film of the year 2006



ดนตรี หรือ ความรัก
ร็อค หรือ คลาสสิค
รักครั้งแรก หรือ เพื่อนสนิท
ปล่อยวาง หรือ เล่นของสูง
...
ทางแยกที่คุณต้องเลือก

"เพราะอากาศมันชอบแปรปรวน
หัวใจก็เลยชอบปรวนแปร
SEASONS CHANGE เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"

รายชื่อทีมงานสร้าง SEASONS CHANGE
อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร: ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บุษบา ดาวเรือง วิสูตร พูลวรลักษณ์
จินา โอสถศิลป์ ชาลอต โทณวณิก วสันต์ ภัยหลีกลี้
อำนวยการสร้าง: จิระ มะลิกุล, ประเสริฐ วิวัฒนานนท์พงษ์, เช่นชนนี สุนทรศารทูล, ยงยุทธ ทองกองทุน, สุวิมล เตชะสุปินัน
บทภาพยนตร์: อมราพร แผ่นดินทอง, นิธิวัฒน์ ธราธร,
กำกับภาพยนตร์: นิธิวัฒน์ ธราธร







เกิดคำถามขึ้นในใจผมว่า ทำไมหนังที่กรูชอบมากปีนี้เป็นหนังไทยว่ะ
ไม่รู้ทำไมไอ้หนังธรรมดามากๆ แบบนี้ถึงโดนใจผมมากก้อไม่รู้นะ
ผมไปดูหนังเรื่องนี้ในวันธรรมดาครับ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่...

ผมไปด้วยอารมณ์ที่เซ็งที่สุด เป็นมาสองวันแล้วนับจากเมื่อวาน(เวลาในขณะนั้น)
(ขอเท้าความนิดนึง เวลาผมเซ็งจัดชอบเข้าโรงหนังครับ
บางทีไม่มีไรทำก็ไปนั่งหลับ ก็ไม่เป็นไรนะครับไม่ว่ากันถือว่าไปผ่อนคลาย)
เมื่อวานก่อนหน้านั้นก็ไปดูมาแล้วเรื่องนึง หนังตลกครับ แต่ดันไม่รู้สึกตลกเลย
สงสัยเซ็งจัด เบื่องานโว้ย อารมณ์นั้น ฮ่าๆ

ตอนที่ดูในขณะนั้นมันไม่รู้จะดูอะไรแล้วครับ เพราะไม่คิดอยากจะดูเลย
แต่ได้เครดิตว่าหนึ่งในผุ้กำกับแฟนฉันก็โดนใจเล็กน้อยถึงปานกลาง
(ผู้กำกับกลุ่มนี้ผมว่าเป็นคลื่นลุกใหม่ที่น่าสนใจและเป็นความหวังเลยทีเดียว
สำหรับวงการหนังไทยที่หลงไปไหนสุดกู่ก็ไม่รู้ อิอิอิ)
แต่อารมณ์ในขณะนั้น ก็อารามเบื่อกะไอ้เครดิตเล็กน้อยว่า "เอ เค้าจะหากินกันด้วยประโยคนี้อีกนานไหม"
(เหอๆๆๆ ช่วงนั้นพาลไปหมด แต่เอาว่ะ ฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่อง เด็กหอ กรุก็ชอบนี่หว่า)

โอ้โห้ แต่ในขณะที่ดูนะคับ ผมนั่งยิ้มตลอดเลย อมยิ้มทั้งเรื่อง โอ้ยยย ทำไมมันน่ารักขนาดนี้ว่ะ
มันพอดีไปหมดเลย ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทุกองค์ประกอบของหนัง ทั้งภาพที่สวยงาม ดนตรีที่ไพเราะ อารมณ์ขันที่มีระดับ และที่สำคัญ เนื้อหาที่โดนใจ

โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่าธีมของหนังแบ่งเป็นสี่ประเด็นหลักครับ : ทางแยกที่คุณต้องเลือก



1. ดนตรี หรือ ความรัก

จะเห็นว่าตั้งแต่แรกเลย ป้อม เลือกที่จะเดินทางมาในเส้นทางสายนี้ไม่ได้มาเพราะดนตรีเลย มาเพราะความรักครับ เนื่องจากแอบหลงรักผู้หญิงคนนึงมานานแล้ว แต่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปคุยด้วย เธอชื่อ ดาว และดาวไม่เคยรู้เลยว่ามีคนคอยแอบมองเธออยู่ห่างๆมานาน ดาวเลือกที่จะเรียนต่อที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อป้อมได้รู้ข่าว ป้อมตัดสินใจทันทีที่จะไปเรียนต่อที่เดียวกัน จนได้ค้นพบพรสวรรค์ด้านการ ตีกลองชุดของตัวเอง (ถือว่าเป็นโชคดีของป้อมนะครับ)ในขณะที่พ่อของป้อมเข้าใจว่าลูกชายไปเรียนที่มหิดล ในสาขาเตรียมแพทย์ศาสตร์ โดยที่ป้อมเองก็ไม่กล้าบอกพ่อว่าตนเรียนทางด้านดนตรี เนื่องจากพ่อของป้อมเห็นว่าดนตรีเป็นวิชาชีพที่ไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ป้อมก็ได้พบกับ อ้อม ลูกสาวของเพื่อนพ่อตน ที่ถึงแม้ด้านปฏิบัติจะไม่เอาไหน แต่ความรู้ด้านทฤษฏีดนตรีเป็นเลิศ สอบเข้าโรงเรียนเดียวกัน อ้อมเข้าใจว่า ป้อมรักดนตรีเหมือนกัน จึงสัญญาจะช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ



2. ร็อค หรือ คลาสสิค

ภาพยนตร์เรื่องนี้ขับเคลื่อนตัวเองด้วยความรักของป้อมนะคับจะเห็นได้ว่าป้อมได้ใช้ตัวเองขับเคลื่อนตามดาวถึงอีกสองครั้งบนแผ่นหนัง
เมื่อดาวเลือกที่จะเข้าวงออร์แคสตร้าของโรงเรียน ป้อมกลับเลือกสมัครเข้าวงออร์เคสตราของโรงเรียนแทนทั้งที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศด้านด้านตีกลองชุด และทั้งที่มีดนตรีของตัวเองแล้วด้วย(ชื่อวง Ass-Ho-Le แอสโฮลี่) กับเพื่อนคือ เฉด และ ฉัตร ซึ่งทั้งสามคนได้วางแผนที่ลงประกวดการแข่งวงดนตรี ฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด ด้วยกัน อีกประเด็นที่โดนใจมากก็คือ มิตรภาพระหว่างเพื่อน จะเห็นว่าทั้งสองคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังให้ในทุกการตัดสินใจของเพื่อนและยินดีที่ให้ป้อมไล่ตามความฝันของตัวเอง (นั่นหมายถึง ดาว)



3. รักครั้งแรก หรือ เพื่อนสนิท

เนื่องจากวงออร์เคสตรา ไม่เน้นบทบาทของเครื่องดนตรีประเภทเพอร์คัชชัน ป้อมจึงต้องรออย่างเบื่อหน่าย กว่าจะถึงช่วงเล่นของตนแต่ละครั้ง ต่างกับอ้อม ที่มีความสุขกับดนตรี แม้ทั้งเพลงจะได้เล่นแค่นิดเดียว ในขณะนี่เองที่ความรู้สึกของป้อมจึงเริ่มนึกถึงความรู้สึกของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ ราวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย อ้อมได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของป้อมมากขึ้นในฐานะของเพื่อนสนิทที่สามารถคุยเล่นได้อย่างไม่ขัดเขิน



4. ปล่อยวาง หรือ เล่นของสูง

ต่อมาเมื่อดาวเลือกที่จะสมัครเข้าชิงทุนไปเรียนต่อตามความฝันของตัวเอง และนั่นเป็นอีกครั้งที่ป้อมต้องขับเคลื่อนตามดาว แต่คราวนี้กลับมีอ้อมเป็นตัวแปรสำคัญอีกตัวที่เข้ามามีบทบาทสำคัญการตัดสินใจป้อม...



แต่ในที่สุด เมื่อบทสรุปออกมา ป้อมเลือกที่จะอยู่ที่นี่กับอ้อมและปล่อยดาวไป ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ป้อมเลือก ถูกหรือผิด การที่ป้อมเลือกอ้อม ถือเป็นการปล่อยวาง หรือ การที่ป้อมวิ่งไล่ตามดาว จะเรียกว่าเป็นการเล่นของสูง รึป่าว (ขอเปรียบเทียบนิดนึงครับ ไม่อยากเลย เหอๆๆ ตอนที่ได้ดู เพื่อนสนิท ตอนที่ใข่ย้อยตัดสินใจเลือกผู้หญิงอีกคนนึงที่ไม่ใช่ ดากานดา ผมรู้สึกแปลกใจมาก ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่รู้สึกว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ผมไม่รู้เห็นรู้สึกที่ถึงความรักที่ใข่ย้อยมีให้ มันเหมือนกับเป็นแค่การเลือกคนที่เค้ารักเรา โดยไม่พยามที่จะต่อสู้อะไรเลยด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนี้พร้อมที่จะหนีและไม่เคยคิดที่จะสู้ - แต่ใขณะที่การตัดสินใจของป้อมดูมีเหตุผลมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องได้ปูไว้อย่างแยบคายทีเดียว จึงทำให้ไม่แปลกใจมากนักกับการตัดสินใจแบบนั้น

อีกอย่างที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ผมชอบคือ รายละเอียดเล็กๆน้อยทีมันดูแล้วน่ารักอ่ะ เช่น ตอนที่ป้อมกับอ้อมกางร่ม ไปด้วยกันกลางสายฝน จะเห็นว่า ป้อมจะเอียงร่มมาทางดาวเล็กน้อย โอ้ย น่ารักครับ หรือตอนที่ เค้าเดินด้วยกันไปบนทางเดินในโรงเรียนคุยเรื่องโน้ตดนตรีกัน หยอกเอินกันเล็กน้อย ตอนที่ป้อมล้อเลียนดาว อิอิอิ น่ารัก

ไม่มีใครรู้ว่า ต่อจากนี้ไปความรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป
จะ Happy Ending น่ารักสดใส แบบนี้ตลอดไปรึเปล่า
แต่ก็เอาเหอะ นี่มันชีวิตวัยรุ่นนะ เส้นทางของทั้งคู่ยังคงอีกยาวไกล



สรุปรวมความว่า ไม่เห็นต้องมีอะไรให้มันเลิศหรู อลังการ
และแม้จะมีคนเคยบอกว่า วันนึงภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะหายไปกับกาลเวลาก็ตาม
แต่ก็นะสั้นๆ ง่ายๆ "แค่กรูชอบก้อพอแล้วน่า"

แถมมิวสิกวีดีโอเพลง ฤดูที่แตกต่างคับ ครับ รอโหลดแปบนึงคับ

Wednesday, January 3, 2007

Hand in my pocket



Artist: Alanis Morissette
Song: Hand In My Pocket



I'm broke but I'm happy
I'm poor but I'm kind
I'm short but I'm healthy, yeah
I'm high but I'm grounded
I'm sane but I'm overwhelmed
I'm lost but I'm hopeful baby
What it all comes down to Is that everything's gonna be fine fine fine
I've got one hand in my pocket
And the other one is giving a high five
I feel drunk but I'm sober
I'm young and I'm underpaid
I'm tired but I'm working, yeah
I care but I'm worthless
I'm here but I'm really gone
I'm wrong and I'm sorry baby
What it all comes down to Is that everything's gonna be quite alright
I've got one hand in my pocket
And the other one is flicking a cigarette
What it all comes down to
Is that I haven't got it all figured out just yet
I've got one hand in my pocket
And the other one is giving the peace sign
I'm free but I'm focused I'm green but I'm wise
I'm shy but I'm friendly baby
I'm sad but I'm laughing
I'm brave but I'm chicken shit
I'm sick but I'm pretty baby
And what it all boils down to
Is that no one's really got it figured out just yet
I've got one hand in my pocket
And the other one is playing the piano
What it all comes down to my friends
Is that everything's just fine fine fine
I've got one hand in my pocket
And the other one is hailing a taxicab...

From DUSK till DAWN! ปีใหม่ วันใหม่ ชีวิตใหม่?


ปีใหม่แล้ว เย้ๆๆๆ
หวังว่าปีนี้คงจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นอีกครั้งนึง
ทุกครั้งที่เริ่มต้นปี ผมมักภาวนาถึงแต่สิ่งที่ดี
หวังว่าแต่ละปีจะเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิต
ปีนี้ก็คงเหมือนกัน เราต้องมีศรัทธาในวันข้างหน้าใช่ไหมคับ
อย่างไรก็ตามปีนี้ผมขอให้ทุกคนที่ผมรักและรักผม มีความสุขมากๆนะครับ
มีชีวิตที่รื่นเริงสดใสและสวยงามเสมอ


และทุกครั้งที่ถึงปีใหม่มีบทกลอนบทนึงที่ผมชอบมากเลย
มอบให้ทุกคนครับ
สั่นระฆังให้กังวาล สั่นให้สิ่งต่างๆที่ไม่ดีทิ้งไป
สั่นรับสิ่งใหม่ๆ ที่ดีงามเข้ามาในชีวิตเราครับ
สิ่งเก่าๆต่างๆ ทิ้งมันไปครับ
มาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่า
สู้ๆๆๆๆ Happy New Year 2007

Ring Out, Wild Bells

Ring out, wild bells, to the wild sky,
The flying cloud, the frosty light;
The year is dying in the night;
Ring out, wild bells, and let him die.

Ring out the old, ring in the new,
Ring, happy bells, across the snow:
The year is going, let him go;
Ring out the false, ring in the true.

Ring out the grief that saps the mind,
For those that here we see no more,
Ring out the feud of rich and poor,
Ring in redress to all mankind.

Ring out a slowly dying cause,
And ancient forms of party strife;
Ring in the nobler modes of life,
With sweeter manners, purer laws.

Ring out the want, the care the sin,
The faithless coldness of the times;
Ring out, ring out my mournful rhymes,
But ring the fuller minstrel in.

Ring out false pride in place and blood,
The civic slander and the spite;
Ring in the love of truth and right,
Ring in the common love of good.

Ring out old shapes of foul disease,
Ring out the narrowing lust of gold;
Ring out the thousand wars of old,
Ring in the thousand years of peace.

Ring in the valiant man and free,
The larger heart, the kindlier hand;
Ring out the darkenss of the land,
Ring in the Christ that is to be.

-- Alfred, Lord Tennyson