
ดนตรี หรือ ความรัก
ร็อค หรือ คลาสสิค
รักครั้งแรก หรือ เพื่อนสนิท
ปล่อยวาง หรือ เล่นของสูง
...
ทางแยกที่คุณต้องเลือก
"เพราะอากาศมันชอบแปรปรวน
หัวใจก็เลยชอบปรวนแปร
SEASONS CHANGE เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
รายชื่อทีมงานสร้าง SEASONS CHANGE
อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร: ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บุษบา ดาวเรือง วิสูตร พูลวรลักษณ์
จินา โอสถศิลป์ ชาลอต โทณวณิก วสันต์ ภัยหลีกลี้
อำนวยการสร้าง: จิระ มะลิกุล, ประเสริฐ วิวัฒนานนท์พงษ์, เช่นชนนี สุนทรศารทูล, ยงยุทธ ทองกองทุน, สุวิมล เตชะสุปินัน
บทภาพยนตร์: อมราพร แผ่นดินทอง, นิธิวัฒน์ ธราธร,
กำกับภาพยนตร์: นิธิวัฒน์ ธราธร



เกิดคำถามขึ้นในใจผมว่า ทำไมหนังที่กรูชอบมากปีนี้เป็นหนังไทยว่ะ
ไม่รู้ทำไมไอ้หนังธรรมดามากๆ แบบนี้ถึงโดนใจผมมากก้อไม่รู้นะ
ผมไปดูหนังเรื่องนี้ในวันธรรมดาครับ แต่มันไม่ธรรมดาตรงที่...
ผมไปด้วยอารมณ์ที่เซ็งที่สุด เป็นมาสองวันแล้วนับจากเมื่อวาน(เวลาในขณะนั้น)
(ขอเท้าความนิดนึง เวลาผมเซ็งจัดชอบเข้าโรงหนังครับ
บางทีไม่มีไรทำก็ไปนั่งหลับ ก็ไม่เป็นไรนะครับไม่ว่ากันถือว่าไปผ่อนคลาย)
เมื่อวานก่อนหน้านั้นก็ไปดูมาแล้วเรื่องนึง หนังตลกครับ แต่ดันไม่รู้สึกตลกเลย
สงสัยเซ็งจัด เบื่องานโว้ย อารมณ์นั้น ฮ่าๆ
ตอนที่ดูในขณะนั้นมันไม่รู้จะดูอะไรแล้วครับ เพราะไม่คิดอยากจะดูเลย
แต่ได้เครดิตว่าหนึ่งในผุ้กำกับแฟนฉันก็โดนใจเล็กน้อยถึงปานกลาง
(ผู้กำกับกลุ่มนี้ผมว่าเป็นคลื่นลุกใหม่ที่น่าสนใจและเป็นความหวังเลยทีเดียว
สำหรับวงการหนังไทยที่หลงไปไหนสุดกู่ก็ไม่รู้ อิอิอิ)
แต่อารมณ์ในขณะนั้น ก็อารามเบื่อกะไอ้เครดิตเล็กน้อยว่า "เอ เค้าจะหากินกันด้วยประโยคนี้อีกนานไหม"
(เหอๆๆๆ ช่วงนั้นพาลไปหมด แต่เอาว่ะ ฉุกคิดขึ้นมาได้เรื่อง เด็กหอ กรุก็ชอบนี่หว่า)
โอ้โห้ แต่ในขณะที่ดูนะคับ ผมนั่งยิ้มตลอดเลย อมยิ้มทั้งเรื่อง โอ้ยยย ทำไมมันน่ารักขนาดนี้ว่ะ
มันพอดีไปหมดเลย ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทุกองค์ประกอบของหนัง ทั้งภาพที่สวยงาม ดนตรีที่ไพเราะ อารมณ์ขันที่มีระดับ และที่สำคัญ เนื้อหาที่โดนใจ
โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่าธีมของหนังแบ่งเป็นสี่ประเด็นหลักครับ : ทางแยกที่คุณต้องเลือก

1. ดนตรี หรือ ความรัก
จะเห็นว่าตั้งแต่แรกเลย ป้อม เลือกที่จะเดินทางมาในเส้นทางสายนี้ไม่ได้มาเพราะดนตรีเลย มาเพราะความรักครับ เนื่องจากแอบหลงรักผู้หญิงคนนึงมานานแล้ว แต่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปคุยด้วย เธอชื่อ ดาว และดาวไม่เคยรู้เลยว่ามีคนคอยแอบมองเธออยู่ห่างๆมานาน ดาวเลือกที่จะเรียนต่อที่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อป้อมได้รู้ข่าว ป้อมตัดสินใจทันทีที่จะไปเรียนต่อที่เดียวกัน จนได้ค้นพบพรสวรรค์ด้านการ ตีกลองชุดของตัวเอง (ถือว่าเป็นโชคดีของป้อมนะครับ)ในขณะที่พ่อของป้อมเข้าใจว่าลูกชายไปเรียนที่มหิดล ในสาขาเตรียมแพทย์ศาสตร์ โดยที่ป้อมเองก็ไม่กล้าบอกพ่อว่าตนเรียนทางด้านดนตรี เนื่องจากพ่อของป้อมเห็นว่าดนตรีเป็นวิชาชีพที่ไม่มั่นคง ขณะเดียวกัน ป้อมก็ได้พบกับ อ้อม ลูกสาวของเพื่อนพ่อตน ที่ถึงแม้ด้านปฏิบัติจะไม่เอาไหน แต่ความรู้ด้านทฤษฏีดนตรีเป็นเลิศ สอบเข้าโรงเรียนเดียวกัน อ้อมเข้าใจว่า ป้อมรักดนตรีเหมือนกัน จึงสัญญาจะช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

2. ร็อค หรือ คลาสสิค
ภาพยนตร์เรื่องนี้ขับเคลื่อนตัวเองด้วยความรักของป้อมนะคับจะเห็นได้ว่าป้อมได้ใช้ตัวเองขับเคลื่อนตามดาวถึงอีกสองครั้งบนแผ่นหนัง
เมื่อดาวเลือกที่จะเข้าวงออร์แคสตร้าของโรงเรียน ป้อมกลับเลือกสมัครเข้าวงออร์เคสตราของโรงเรียนแทนทั้งที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศด้านด้านตีกลองชุด และทั้งที่มีดนตรีของตัวเองแล้วด้วย(ชื่อวง Ass-Ho-Le แอสโฮลี่) กับเพื่อนคือ เฉด และ ฉัตร ซึ่งทั้งสามคนได้วางแผนที่ลงประกวดการแข่งวงดนตรี ฮอทเวฟมิวสิคอวอร์ด ด้วยกัน อีกประเด็นที่โดนใจมากก็คือ มิตรภาพระหว่างเพื่อน จะเห็นว่าทั้งสองคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังให้ในทุกการตัดสินใจของเพื่อนและยินดีที่ให้ป้อมไล่ตามความฝันของตัวเอง (นั่นหมายถึง ดาว)

3. รักครั้งแรก หรือ เพื่อนสนิท
เนื่องจากวงออร์เคสตรา ไม่เน้นบทบาทของเครื่องดนตรีประเภทเพอร์คัชชัน ป้อมจึงต้องรออย่างเบื่อหน่าย กว่าจะถึงช่วงเล่นของตนแต่ละครั้ง ต่างกับอ้อม ที่มีความสุขกับดนตรี แม้ทั้งเพลงจะได้เล่นแค่นิดเดียว ในขณะนี่เองที่ความรู้สึกของป้อมจึงเริ่มนึกถึงความรู้สึกของตนเอง ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ ราวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย อ้อมได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของป้อมมากขึ้นในฐานะของเพื่อนสนิทที่สามารถคุยเล่นได้อย่างไม่ขัดเขิน

4. ปล่อยวาง หรือ เล่นของสูง
ต่อมาเมื่อดาวเลือกที่จะสมัครเข้าชิงทุนไปเรียนต่อตามความฝันของตัวเอง และนั่นเป็นอีกครั้งที่ป้อมต้องขับเคลื่อนตามดาว แต่คราวนี้กลับมีอ้อมเป็นตัวแปรสำคัญอีกตัวที่เข้ามามีบทบาทสำคัญการตัดสินใจป้อม...

แต่ในที่สุด เมื่อบทสรุปออกมา ป้อมเลือกที่จะอยู่ที่นี่กับอ้อมและปล่อยดาวไป ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ป้อมเลือก ถูกหรือผิด การที่ป้อมเลือกอ้อม ถือเป็นการปล่อยวาง หรือ การที่ป้อมวิ่งไล่ตามดาว จะเรียกว่าเป็นการเล่นของสูง รึป่าว (ขอเปรียบเทียบนิดนึงครับ ไม่อยากเลย เหอๆๆ ตอนที่ได้ดู เพื่อนสนิท ตอนที่ใข่ย้อยตัดสินใจเลือกผู้หญิงอีกคนนึงที่ไม่ใช่ ดากานดา ผมรู้สึกแปลกใจมาก ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่รู้สึกว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ผมไม่รู้เห็นรู้สึกที่ถึงความรักที่ใข่ย้อยมีให้ มันเหมือนกับเป็นแค่การเลือกคนที่เค้ารักเรา โดยไม่พยามที่จะต่อสู้อะไรเลยด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนี้พร้อมที่จะหนีและไม่เคยคิดที่จะสู้ - แต่ใขณะที่การตัดสินใจของป้อมดูมีเหตุผลมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องได้ปูไว้อย่างแยบคายทีเดียว จึงทำให้ไม่แปลกใจมากนักกับการตัดสินใจแบบนั้น
อีกอย่างที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ผมชอบคือ รายละเอียดเล็กๆน้อยทีมันดูแล้วน่ารักอ่ะ เช่น ตอนที่ป้อมกับอ้อมกางร่ม ไปด้วยกันกลางสายฝน จะเห็นว่า ป้อมจะเอียงร่มมาทางดาวเล็กน้อย โอ้ย น่ารักครับ หรือตอนที่ เค้าเดินด้วยกันไปบนทางเดินในโรงเรียนคุยเรื่องโน้ตดนตรีกัน หยอกเอินกันเล็กน้อย ตอนที่ป้อมล้อเลียนดาว อิอิอิ น่ารัก
ไม่มีใครรู้ว่า ต่อจากนี้ไปความรักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป
จะ Happy Ending น่ารักสดใส แบบนี้ตลอดไปรึเปล่า
แต่ก็เอาเหอะ นี่มันชีวิตวัยรุ่นนะ เส้นทางของทั้งคู่ยังคงอีกยาวไกล

สรุปรวมความว่า ไม่เห็นต้องมีอะไรให้มันเลิศหรู อลังการ
และแม้จะมีคนเคยบอกว่า วันนึงภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะหายไปกับกาลเวลาก็ตาม
แต่ก็นะสั้นๆ ง่ายๆ "แค่กรูชอบก้อพอแล้วน่า"
แถมมิวสิกวีดีโอเพลง ฤดูที่แตกต่างคับ ครับ รอโหลดแปบนึงคับ